คำที่มีปัญหาในการตีความคำหนึ่งก็คือคำว่า
"บัตรธนาคาร" ที่พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้ให้บทนิยามไว้ดังนี้
"น.บัตรที่ธนาคารออกใช้แทนเงิน ไม่เป็นสิ่งที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย."
ต่อมาศาสตราจารย์ ดร.ประยูร กาญจนดุล
ประธานคณะกรรมการ ทำพจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทยได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบเมื่อวันที่
๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือที่ บ.๑๔/๒๕๓๓
ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓ เรื่อง ขอปรับปรุงแก้ไขความหมายของคำในพจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน แจ้งมายังราชบัณฑิตยสถานความว่า ตามที่พจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ หน้า ๔๖๔ (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๓ เป็นหน้า
๔๗๐...ผู้เขียน) ระบุความหมายของคำว่า "บัตรธนาคาร" ว่าหมายถึง
"บัตรที่ธนาคารออกใช้แทนเงิน ไม่เป็นสิ่งที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย"
นั้น
ปรากฏว่า ความหมายดังกล่าวยังคลาดเคลื่อนจากบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องและอาจทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดได้
ทั้งนี้เนื่องจาก ธนาคารแห่งประเทศไทยได้นำบัตรธนาคาร ชนิดราคา ๖๐ บาท
ออกใช้เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงเจริญพระชนมายุครบหกสิบพรรษาบริบูรณ์
เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ แล้ว ซึ่งตามบทบัญญัติ มาตรา
๒๓ และมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช ๒๔๘๕
ระบุไว้ชัดเจนว่า "การ ออกและจัดการบัตรธนาคารของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น
ให้อยู่ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยระบบเงินตรา และคำว่า
"ธนบัตร" ที่ใช้ในกฎหมายดังกล่าวนั้นให้ถือว่ารวมตลอดถึง "บัตรธนาคาร"
ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกด้วย และบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ให้ถือว่าเป็นเงินตราตามความหมายแห่งกฎหมายลักษณะอาญา."
อนึ่ง มาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติเงินตรา
พ.ศ. ๒๕๐๑ ก็กำหนดไว้ว่า "ธนบัตรเป็นเงินที่ชำนะหนี้ได้ตามกฎหมายโดยไม่จำกัดจำนวน."
ดังนั้น ความหมายที่ถูกต้องของคำว่า
"บัตรธนาคาร" จึงควรหมายถึง "บัตรที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกใช้แทนเงิน
และเป็นสิ่งที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเช่นเดียวกับธนบัตร."
ด้วยเหตุนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย
จึงใคร่ขอให้ราชบัณฑิตยสถาน ได้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขความหมายของคำว่า
"บัตรธนาคาร" ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ถูกต้องต่อไปด้วย
เรื่องนี้ นายกราชบัณฑิตยสถานได้สั่งการให้คณะกรรมการชำระพจนานุกรม
รับไปดำเนินการ ซึ่งเลขานุการคณะกรรมการชำระพจนานุกรม ได้ขอความอนุเคราะห์ให้พิจารณาในด้านเศรษฐศาสตร์และกฎหมาย
ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบัญญัติศัพท์เศรษฐศาสตร์
ได้พิจารณาในการประชุม ครั้งที่ ๒๕/๒๕๓๓ เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๓๓
มีมติดังนี้ "บัตรธนาคาร น.บัตรที่ธนาคารออกใช้แทนเงิน." โดยตัดข้อความว่า
"ไม่เป็นสิ่งที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย" ออก ด้วยเหตุผลว่า ความหมายทั่วไปควรนิยามไว้อย่างกว้าง
ๆ
ในด้านศัพท์กฎหมายไทย ที่ประชุมพิจารณา
แล้วมีมติดังนี้
"บัตรธนาคาร น. บัตรที่ธนาคารออกใช้แทนเงิน;
(กฎหมาย) บัตรที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกใช้แทนเงินตรา."
ในการประชุมคณะกรรมการทำพจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทยครั้งต่อมา
คือเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ คณะกรรมการทำพจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทย
ได้ปรับปรุงแก้ไขบทนิยามของคำว่า "บัตรธนาคาร" ใหม่ดังนี้
"บัตรธนาคาร น. บัตรที่ธนาคารออกใช้เป็นเงินตรา;
(กฎหมาย) บัตรที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกใช้เป็นเงินตรา."
ที่คณะกรรมการทำพจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทย
ได้ปรับปรุงแก้ไขใหม่จาก "ออกใช้แทนเงิน" หรือ "ออกใช้แทนเงินตรา"
เป็น "ออกใช้เป็นเงินตรา" นั้น เพราะมิใช่ "ออกใช้แทน"
หาก "ออกใช้เป็น" เงินตราทีเดียว
คำว่า "เงินตรา" พจนานุกรม
ฉบับ พ.ศ.๒๕๒๕ ได้ให้บทนิยามไว้แล้วดังนี้ "น.เงินที่รัฐกำหนดขึ้นไว้เพื่อใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
เช่น เหรียญกระษาปณ์ ธนบัตร."
ศัพท์กฎหมายที่มีอยู่ในพจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ นั้น คณะกรรมการทำพจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทยกำลังพิจารณาปรับปรุงแก้ไขอย่างรีบเร่ง
และได้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขอย่างรีบเร่ง ขณะนี้ได้พิจารณามาถึงตัว ม
แล้ว เมื่อคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาศัพท์กฎหมายเสร็จแล้ว พจนานกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พ.ศ.๒๕๒๕ ก็คงจะมีศัพท์กฎหมายถูกต้องและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน.