Back

สวัสดี - สวัสติกะ

คำว่า "สวัสดี" เป็นคำที่คนไทยในปัจจุบันนิยมใช้เป็นคำทักทายกัน ทั่วไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ บางคนก็ไม่ทราบความหมายของคำนี้และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เริ่มต้นนำใช้คำนี้

คำว่า "สวัสดี" มาจากคำสันสกฤตว่า "สฺวสฺติ" ตรงกับคำบาลีว่า "โสตฺถิ" อย่างที่เวลาพระท่านสวดอนุโมทนา จะมีคำบาลีลงท้ายว่า "โสตฺถี ภวนฺตุ เต" ก็แปลว่า "ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน" ตามรูปศัพท์ทั้งคำ "สฺวสฺติ" และ "โสตฺถี" ต่างก็แปลว่า "ขอความดีจงมีแต่ท่าน" คำนี้พระยาอุปกิตศิลปสารเป็นผู้นำมาแนะนำให้นิสิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้ตั้งแต่รุ่นท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ก็พยายามที่จะพัฒนาให้คนไทยเอาอย่างวัฒนธรรมบางอย่างของชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวยุโรปและอเมริกัน เช่นในการทักทายปราศรัยกัน ฝรั่งใช้ว่า good morning ก็บัญญัติให้ใช้คำว่า "อรุณสวัสดิ์" ถ้าเป็นเวลากลางวัน ฝรั่งว่า good afternoon เราก็บัญญัติใช้ว่า "ทิวาสวัสดิ์" ถ้าเป็นการทักทายกันในยามเย็น ฝรั่งใช้ว่า good evening เราก็บัญญัติใช้ว่า "สายัณห์สวัสดิ์" และถ้าเป็นเวลากลางคืนทักทายกันก่อนเข้านอน ฝรั่งใช้ว่า good night เราก็บัญญัติใช้ว่า "ราตรีสวัสดิ์" นับว่าเราบัญญัติคำใช้ได้ตรงกับความหมายของฝรั่งมาก แทนที่จะใช้ "สวัสดี" ก็ใช้เสียง "สวัสดิ์" ถ้าเป็นตอนเข้าก็ใช้ "อรุณสวัสดิ์" เวลากลางวันก็ใช้ "ทิวาสวัสดิ์" เวลาตอนเย็นก็ใช้ว่า "สายัณห์สวัสดิ์" และถ้าใช้ตอนกลางคืนก็ใช้ "ราตรีสวัสดิ์"

การให้ศีลให้พรนั้นเท่ากับเป็นการให้กำลังใจแก่บุคคลอื่น แต่ความจริงแล้วเป็นการสั่งสอนให้คนทำความดีมากกว่า เพราะความสวัสดีที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การกระทำความดีของผู้นั้นเอง ท่านเจ้าคุณพระพิมลธรรม (ชอบ อนุจารี มหาเถระ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี ซึ่งได้พระราชทานเพลิงศพไปแล้ว เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้รจนาเป็นบทร้อยกรองเกี่ยวกับคำ "สวัสดี" ไว้ดังนี้

"สวัสดีของคน นั้นคือผลของงาน
ที่ให้ความเบิกบาน และสำราญอินทรีย์
ด้วยบรรดาการงาน อุดมการณ์ของมนุษย์
รากฐานดีที่สุด ให้มนุษย์เกิดศรี
เป็นมนุษย์โสภา คนเบิกตาจ้องจับ
ยิ้มแย้มแถมคำนับ ร้องเชิญครับ "สวัสดี"
ยังโอภาปราศรัย มานั่งใกล้รับรอง
เกื้อกูลด้วยสิ่งของ ดังพี่น้องให้ฟรี
จะออกปากการใด ก็พอใจช่วยเหลือ
มีแก่ใจเอื้อเฟื้อ แถมจุนเจือด้วยไมตรี
หากคนเราเกียจคร้าน อุดมการณ์ชีวิต
จะไร้ญาติขาดมิตร ที่มีจิตอารีย์
จะมีแต่เพื่อนพาล มีสันดานลามก
ชวนทำโลกให้รก อุลามกบัดสี
ไม่มีใครสังคม มานิยมคบหา
พี่น้องไม่นำพา เห็นเป็นกาลกิณี
จะเป็นผีก่อนตาย ไม่มีใครสงสาร
เพราะโทษความเกียจคร้าน ไม่เอางานนี้ซี
มาเถิดทุกท่าน มาขยันทำงาน
เลิกเสนียดเกียจคร้าน สันดานพาลเสียที
ให้เราสุขสำราญ ด้วยแรงงานชีวิต
เกิดทรัพย์ปกาสิต กำจัดฤทธิ์ภูตผี
ดูโสภาสรรพางค์ ทุกนายนางสนใจ
จะไปไหนมาไหน เขาพอใจสวัสดี; สวัสดี !!
สวัสดีของคน นี่แหละผลของงาน
ที่ให้ความเกษมศานต์ ประทานความ "สวัสดี" ฯ
จากคำว่า "สวัสดี" ซึ่งมาจากคำสันสกฤตว่า "สฺวสฺติ" นี้ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็มีลัทธิชาตินิยมลัทธิหนึ่งเกิดขึ้นในเยอรมนีและอิตาลี นั่นคือลัทธินาซี ซึ่งมีเครื่องหมายแห่งความสวัสดี ซึ่งเรียกว่า "สวัสติกะ" เป็นสัญลักษณ์ รูปเหมือนกากบาท ที่มีปลายหักไปทางขวา คำนี้มิใช่ภาษาเยอร--มัน ความจริงก็ภาษาสันสกฤตนั่นเอง ทั้งนี้เพราะเครื่องหมายนี้เกิดทางตะวันออกแล้วได้เข้าไปมีอิทธิพลอยู่ในยุโรปในสมัยต่อมา โดยเฉพาะในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒.



จำนงค์ ทองประเสริฐ
๑๙ สิงหาคม ๒๕๓๖
Back